วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

ให้นักเรียนทำการค้นหาเกี่ยวกับอาชีพคอมพิวเตอร์ที่นักเรียนสนใจมาอย่างน้อย1อาชีพพร้อมเหตุผล

                                                                        ใบงาน
                                                                         
                                                                       
                                                                          เรื่อง
                                                     อาชีพด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์





          ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ และ คอมพิวเตอร์ ได้มีบทบาทในการดำรงชีวิตของเรามากในปัจจุบัน รวมไปถึงองค์กรใหญ่ๆที่ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาในการเก็บข้อมูล จัดการเอกสารต่างๆ ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสะดวกสบายพวกนี้คือ “โปรแกรมเมอร์” (Programmer) นักพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นี่เองครับ
     
          ส่วนสาเหตุที่ผมเลือกอาชีพนี้นั้น มันมีเหตุผลหนึ่งคือนี่อาจเป็นอาชีพหรือทางเลือกสำรองของผมที่ผมอยากจะเป็น และเท่าที่ดูศึกษามานั้นมันพอมีความสำคัญไม่ใช่น้อยถ้าเทียบกับความต้องการทางตลาดของอาชีพนี้ อาชีพนี้หน้าที่ก็ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บเอยการเขียนโปรแกรมเอยรวมไปทั้งอื่นๆอีกมากมายที่เราสามารถต่อต่อ(ต่อยอด)เองได้ ซึ่งมองๆดูมันเป็นอาชีพที่มีสเน่ห์พอสมควรและถ้าพูดถึงรายได้นั้น ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว เนื่องจากผมคำนวณเรียบร้อยแล้ว ถ้าเฉลี่ยรายได้/เดือน จะตกที่ 218000 บาท.

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สอบปลายภาค

1. จงเขียนอธิบาย ความหมายของ ISP และ ยกตัวอย่าง ISP มาจำนวน3แห่ง
ตอบ.    Internet service provider (ISP) หรือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คือ บริษัทที่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยผู้ให้บริการจะเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลที่เหมาะสมในการส่งผ่านอุปกรณ์โพรโทคอลอินเทอร์เน็ต เช่น Dial, DSL, เคเบิลโมเด็ม ไร้สาย หรือการเชื่อมต่อระบบไฮสปีด เป็นต้น         ยกตัวอย่างเช่น   1.บริษัท กสท โทรคมนาคม CAT      2.อินเทอร์เน็ตประเทศไทยInternet Thailand  and the last    3. เครือข่ายยูนิเน็ต UniNet


2.จงเขียนขั้นตอนการติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มา1อย่าง พร้อมอธิบายอย่างละเอียด

เริ่มจากหาซื้อ router Wi-Fi มา. Router นั้นมีด้วยกันหลายขนาดและรูปร่างหน้าตา ให้ลองเปรียบเทียบฟังก์ชั่นการทำงานดู แล้วจะรู้ว่า router ไหนที่ใช่สำหรับคุณ ถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่ ในบ้านมีหลายห้อง ก็ต้องใช้ router ที่สามารถอัพเกรดเสาอากาศแบบความแรงสูงได้ หมายถึงกรณีที่ไม่ได้รวมมาในกล่องด้วย แต่ถ้าอยากใช้หลายอุปกรณ์มาต่อ Wi-Fi พร้อมกันในความเร็วที่แตกต่างกัน เราขอแนะนำ router แบบ MiMo ไม่งั้นทุกเครื่องก็จะแย่งกันใช้ความเร็วสูงสุดจนพากันสัญญาณอ่อนไปตามๆ กัน





ต่อ router กับ modem. router ธรรมดาและ router Wi-Fi ให้คุณแชร์ broadband internet ได้กับหลายอุปกรณ์ ทำได้โดยการเชื่อมต่อโมเด็ม broadband เข้ากับ router จุดสำคัญเพื่อสัญญาณที่ดีคือควรจัดวาง router ไว้ใกล้กันกับ modem นั่นแหละ
ต่อ router เข้ากับ modem ด้วยสาย Ethernet ไม่ต้องห่วง เพราะ router ส่วนใหญ่มาพร้อมสาย Ethernet สั้นๆ อยู่แล้ว
ต่อ modem เข้ากับพอร์ต WAN/Internet ของ router ซึ่งปกติจะแยกออกมาให้เห็นชัดเจน ไม่ก็ใช้สีที่แตกต่างกันจากพอร์ตของ LAN




ต่ออุปกรณ์ที่จะใช้เข้ากับ router โดยตรงด้วยสาย Ethernet แบบ CAT 5 (หรือดีกว่านั้น). ถ้าปกติใช้คอม เครื่องเกม หรือทีวีอยู่แถวๆ นั้น จะต่อเข้ากับ router โดยตรงผ่านสาย Ethernet ก็ได้ เน็ตจะได้ยิ่งแรงและเสถียร แถมไม่ต้องปรับแต่งค่าอะไรเพิ่มเติม



ต่อคอมอย่างน้อย 1 เครื่องเข้ากับ router ด้วยสาย Ethernet. ต้องมีคอมอย่างน้อยเครื่องนึงที่ต่อกับ router ด้วยสาย Ethernet ถึงจะตั้งค่า router ได้ พอตั้งค่าเสร็จแล้วค่อยถอดก็ได้

พอเปิด router แล้ว จะเป็นการเปิดแค่เครือข่าย wi-fi ขึ้นมา เครื่องจะเชื่อมต่อกับ wi-fi ของ router ยังไม่ใช่อินเทอร์เน็ตนะ. การจะใช้ router ต่อเน็ตจากผู้ให้บริการ (เช่น true) คุณต้องลงทะเบียน MAC address ของ router ในเว็บของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

2.ไปที่เว็บของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต. ล็อกอินเข้าไปด้วย username และ password ที่ได้มาจากผู้ให้บริการ แล้วไปที่ตัวเลือกอัพเดท MAC address คุณจะเห็น MAC address ของคอมหรือแล็ปท็อปของคุณ คู่กับ MAC address ของ router ให้เซฟเก็บไว้ซะ ขั้นตอนนี้เป็นการอนุญาตให้ router ใช้เน็ตของผู้ให้บริการได้

3.หา IP address ของ router. ถ้าเป็น router ใหม่หรือเพิ่งติดตั้ง ให้หา IP address ตั้งต้นที่แปะมาบน router หรือในเอกสารประกอบ ถ้าหายังไงก็ไม่เจอ IP address ของ router ให้ลองเอารุ่น router ไปค้นดูในเน็ต ว่า default address ของรุ่นนั้นคืออะไร

4.เปิดเบราว์เซอร์ในคอมที่เสียบอยู่กับ router ขึ้นมา. ใส่ IP address ของ router ลงในแถบ address แล้วกด Enter เบราวเซอร์ของคุณจะไปยังเมนูปรับแต่งค่าของ router

5.ใส่ username กับ password. จะไปที่หน้าปรับแต่งค่าได้ คุณต้องมี IP address ของ router พร้อม username และ password ที่ใช้งานได้ router ส่วนใหญ่จะมีข้อมูลเบื้องต้นสำหรับล็อกอินครั้งแรก ซึ่งก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น แต่มักติดอยู่ตามข้าง router หรือในเอกสารประกอบ

6.เปิดการตั้งค่า Wi-Fi ขึ้นมา. พอล็อกอินเข้า router แล้ว จะมีหน้าจอสถานะ หรือเมนูหลักของ router ขึ้นมา พร้อมสารพัดตัวเลือก คุณปล่อยส่วนของ Internet เป็นค่า default ไว้ได้เลย เว้นแต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะแนะนำให้ปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม คุณตั้งค่า Wi-Fi ได้ที่ส่วนของ wireless

7.ตั้งชื่อ Wi-Fi. ในส่วนของ wireless คุณจะเห็นช่อง SSID หรือ Name ให้คุณใส่ชื่อ Wi-Fi ใหม่ของคุณที่คิดแล้วว่าแปลกแหวกแนวลงไป นี่จะเป็นชื่อที่แสดงขึ้นมาในอุปกรณ์อื่นๆ เวลาอุปกรณ์นั้นสแกนหา Wi-Fi

8.ใช้ Wi-Fi ในคอม แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน. ให้สแกนหา Wi-Fi ด้วย SSID ที่มี ถ้าอุปกรณ์นั้นๆ รองรับ Wi-Fi ก็จะเห็นชื่อ Wi-Fi ใหม่นั้นขึ้นมา ขอแค่อยู่ในระยะสัญญาณก็พอ ให้เลือกที่ชื่อ Wi-Fi แล้วจะมีถาม passphrase ขึ้นมา

อ้างอิง:https://th.wikihow.com/%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-Router-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-Wi-Fi

 
https://www.etda.or.th/terminology-detail/1590.html






























วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

VIDEO การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์


การเชื่อมต่อ Internet.

การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย  โดยมี5วิธีดังนี้...

1.การเชื่อมต่อแบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต

2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network) เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ

3.   การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ

1. ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่
2. บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL
3. การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ
4. ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย

4.   การเชื่อมต่อแบบ Cable เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ

1. ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ
2. ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย

5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ

1. จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม

2. ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

เทคโนโลยีสมัยใหม่

เทคโนโลยีสมัยใหม่


แว่นตาVR


        VR (Virtual reality)เป็นเทคโนโลยีในการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ที่ทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และรู้สึกเหมือนจริงมากที่สุด ขณะนี้มีการตื่นตัวกันมากขึ้น

ประโยชน์ของ VR
เห็นได้ว่าประโยชน์ของแว่น VR ที่เห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงนี้จะเกี่ยวกับความบันเทิงเป็นหลัก โดยเฉพาะการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ สาเหตุที่ต้องเริ่มจากกลุ่มเป้าหมายเล็กๆ นี้ก่อนก็เพราะความต้องการขั้นต่ำของสเปคคอมพิวเตอร์นั้นยังจัดว่าสูงอยู่มาก (รวมทั้งเซ็ตต้องใช้งบประมาณราว 40,000 – 50,000 บาท) จึงจะสามารถรันคอนเท้นท์ VR ได้อย่างไหลลื่น ซึ่งก็มีแต่ลูกค้ากลุ่มเกมเมอร์เท่านั้นที่จะทำใจซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคาระดับนี้ได้ แต่ที่สำคัญก็คือคงมีเกมเท่านั้น (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) ที่จะสามารถแสดงศักยภาพนวัตกรรมนี้ได้อย่างเต็มที่